
สวัสดีครับทุกคน 🙌💬 วันนี้เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ Work and Travel ที่อเมริกากันครับ 🎒✈️ เราเข้าร่วมโครงการในช่วง Spring Season 🌸 และนี่เป็นครั้งแรกของเราที่ได้มาร่วมโปรแกรมนี้เลย 🫶
ส่วนตัวเราเรียนจบใน 3 ปีครึ่ง 🎓 ก็เลยตัดสินใจมาเปิดโลกก่อนเริ่มทำงานครับ 🌍💡 ตลอด 4 เดือนที่อยู่ที่นั่น เราทำทั้งหมด 3 งานครับ 💼💼💼 ซึ่งตอนแรกก็แอบกังวลเหมือนกันว่าจะไหวไหม 🤯 แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ด้วยดีเลยครับ 💪 (เหนื่อยแต่สนุกมาก ครบรสจริง ๆ 😅) เราเลยอยากมาแชร์ว่าแต่ละวันเราจัดการเวลายังไง ⏰ เจออะไรบ้าง 🌟 แล้วได้เรียนรู้อะไรกลับมาจาก Work and Travel ครั้งนี้ เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังสนใจหรือกำลังลังเลอยู่ 🤔 หวังว่าจะช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นนะครับ 🩵🧡
🔖 หัวข้อหลักที่เราจะเล่า
📌 Primary Job
📌 Second Job
📌 Third Job
📌 Housing (IRH)
📌 Pigeon Forge, Tennessee
📍Dollywood Theme Park, Pigeon Forge, TN
🧑💼 Position: Ticket Team Member
💵 $15/hr | OT: $22.5/hr
📆 Period: March 7 – July 7, 2025
Dollywood ถือว่าเป็นงานหลักที่ทำให้เราได้มีโอกาสมาทำงานที่อเมริกาเลยครับ 💼 ตำแหน่งของเร คือ Ticket Team Member ใช่ครับ… คนขายตั๋วนั่นแหละ 555 😆 แต่ความพิเศษคือเราเป็น J1 Supervisor ด้วยนะครับ 🎖️💬 ซึ่งเราพูดตั้งแต่วันแรกที่ไป Orientation เลยว่าเราจะอยู่ได้แค่ช่วงเวลาที่โครงการกำหนด (Period of Time) ทาง Supervisor เลยจะไม่ให้เราเข้าไปอยู่ใน Ticket Booth จริง ๆ เพื่อขายตั๋วแบบเต็มระบบ (เพราะมันต้องเรียนรู้อะไรเยอะมาก) แต่!! ตำแหน่งนี้ไม่ได้มีแค่ขายตั๋วครับ เพราะจริง ๆ แล้ว Ticket Team = Customer Service เลยก็ว่าได้ เราต้องคอยรับมือกับลูกค้าทุ ประเภทเลยครับ ใครมีปัญหา สงสัย หลงทาง หรือต้องการความช่วยเหลืออะไร จะเดินมาหาเราตลอดทั้งวัน และที่สำคัญ! เรายังเป็นคนที่ คอยสแกนบัตรให้ลูกค้าเข้าด้วยนะครับ
พูดง่าย ๆ ก็คือทุกคนที่เข้า Dollywood จะต้องผ่านเราก่อนเลยครับ แต่ละวันเจอลูกค้าหลายพันคน สนุกมาก ๆ เลยครับ! ตำแหน่งหลัก ๆ ใน Ticket Team ที่ J1 ได้ทำมีประมาณนี้ครับ:
แต่ละวันเราจะถูกหมุนเวียนไปตามตำแหน่งต่าง ๆ ครับ บางตำแหน่งก็ได้ทำบ่อย (เช่น Turnstiles), บางตำแหน่งก็ได้นาน ๆ ที บางวันอยู่จุดเดิมทั้งวัน บางวันเปลี่ยน 3-4 จุดเลยก็มี 5555 เวลาทำงานหลักคือเริ่ม 8:30 AM ครับ ถือว่าเป็นเวลาที่เช้าสุดใน Dollywood เลย แต่บางตำแหน่งก็เริ่มช้ากว่านี้ เช่น Exit เริ่ม 9:15 AM และ Breaker เริ่ม 10:00 AM ขึ้นอยู่กับว่าเราได้ทำ Position ไหนในวันนั้นครับ เวลาจบงานแต่ละวันไม่แน่นอนเลยครับ เช่น Turnstiles / Group Turnstiles / Exit ต้องมีคน Close อย่างน้อย 1 คนต่อวัน หมายถึง… ถ้าคุณเป็นคน Close คุณจะเริ่มงาน 8:30 AM และเลิกตอน 9:00 PM เพราะ Dollywood ปิดตอน 8:30 PM (Spring Season) และต้องใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการเคลียร์คนออกจากสวน แต่ถ้าเป็น Summer Season สวนจะปิด 10:00 PM ดังนั้น ถ้าวันไหนเราโดน Close ก็เตรียมรับ 13 ชั่วโมงเน้น ๆ ได้เลยครับ! 🥵 แต่ถ้าวันไหนคนไม่เยอะ หรือเราได้ตำแหน่งอื่น ก็อาจเลิกเร็ว เช่น บ่ายโมง, บ่ายสอง, ห้าโมงเย็น แล้วแต่สถานการณ์เลยครับ เราจะบอกว่าเราได้OT เกือบทุกวีคเลยนะครับในช่วงของ Spring Season ก่อนที่Summerจะมา คือได้40hr per week และก็ยังมี OT ตลอกทุกวีคเลยครับแต่อาจจะไม่เยอะ แค่วีคละ 3- 5hrครับ แต่วีคแรกที่เราเริ่มทำงานเราได้ OT ไป 12hr เลยครับ เพราะส่วนสนุกพึ่งเปิดคนเลยมากันเยอะครับพอช่วงหลังก็ยังมีได้ครับแบบเล็กๆน้อยๆ แต่summer มาก็โดนลดชั่วโมงครับแต่เราไม่แคร์เพราะจะกลับละครับ55555
Ticket Team Member เป็น ตำแหน่งเดียวใน Dollywood ที่ "นั่งทำงาน" ได้ครับ! 🪑🎉 หลัง 2 PM เราสามารถเดินไปหยิบเก้าอี้มานั่งได้เลย ไม่ผิดกฎนะครับ 🧾 เพราะเราเคยถาม Supervisor ตั้งแต่วันแรกแล้ว 💬 และทุกคนในทีมก็ทำแบบเดียวกัน 😊 หรือถ้าเราได้อยู่ตำแหน่ง Exit จะได้นั่งตั้งแต่เช้าเลยครับ แต่ต้องแลกมากับความรับผิดชอบหนักขึ้น เพราะอยู่คนเดียว และต้อง Handle ทุกอย่างเอง แต่ไม่ต้องกังวลครับ เพราะถ้ามีปัญหา เราสามารถ Call PIC (Supervisor) มาช่วยได้ตลอดเวลาเลย สำหรับเรานะ... ส่วนใหญ่โดนจับไปอยู่ Exit ประจำเลย ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย 555 แต่พูดจริง ๆ เราชอบตำแหน่งนี้มากเลยครับ สรุปหน้าที่หลัก ๆ ของ Ticket Team
สแกนบัตร
ตอบคำถาม
ช่วยเหลือแขก
ดูแลความปลอดภัย
แนะนำจุดต่าง ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวที่มา Dollywood ครั้งแรก ตอนแรก ๆ ยอมรับว่ายากครับ เพราะต้องพูดเยอะมาก แต่พอผ่านไปได้สักพัก เราจะเริ่มเข้าใจว่าจะตอบยังไง ลูกค้าต้องการอะไร และแก้ปัญหาแบบไหน บอกเลยว่าตำแหน่งนี้ใช้ “สกิลเยอะมากกก” และเป็นงานที่ทำให้ภาษาอังกฤษเราพัฒนาขึ้นแบบก้าวกระโดดมากเลยครับ ถึงไม่อยากพูด... สุดท้ายก็ต้องพูดครับ 525252
แต่ไม่ต้องกลัวนะครับ เพราะคนในทีมใจดีและพร้อมช่วยเหลือตลอด แนะนำเลยครับสำหรับคนที่อยากฝึกภาษา! I love Dollywood 💖💖💖
📍Farmhouse Sweets – Pigeon Forge, TN
💵 $12/hr + tips (บอกเลยว่า very gooddd 😍💸)
งานที่สองของเราคือร้านขนมหวานครับ อยู่ในเมือง Pigeon Forge แถว ๆ Parkwayเลยครับ ร้านนี้ขายของหวานทุกอย่างทั้ง Ice cream, Milkshake, Chocolate, เยลลี่ และอีกสารพัดความหวานครับ 🍦🍫 พอเราเลิกจาก Dollywood ถ้าเลิกเร็ว เราก็จะมาทำงานที่นี่ต่อเลย ใครที่ทำ Dollywood จะรู้กันดีว่าตารางงานไม่มีการ fix อะไรทั้งนั้น เปลี่ยนทุกสัปดาห์ แต่ร้านขนมร้านนี้ยืดหยุ่นมากครับ เค้าปรับตารางตามเราได้ตลอดเลย! ในร้านเราต้องทำอะไรบ้างเหรอ? บอกเลยว่า ทุกอย่าง! 😆 เมนูมีอะไร เราก็ต้องทำให้ได้ ขายให้เป็น ทำให้ทัน เพราะลูกค้าเข้า-ออกทั้งวันครับ และที่สำคัญ ร้านนี้มี tip ด้วยครับ ซึ่งถ้าเราพูดเก่ง คุยเก่ง ยิ้มเก่ง = ได้ tip เยอะมากกกก! สาเหตุที่ tip ดีเพราะ โลเคชันของร้านดีมาก ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างร้านอาหารใหญ่ ๆ ในเมือง Pigeon Forge พูดเลยว่า 100% กินคาวเสร็จปุ๊บ เดินมาต่อของหวานที่ร้านเราทันที 🍰🍧 เวลาทำงานโดยเฉลี่ย ส่วนใหญ่เราจะเริ่มงานที่นี่ตอนประมาณ 2, 3 หรือ 4 PM (ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้น Dollywood เลิกกี่โมง) แล้วจะทำถึงประมาณ เที่ยงคืน (12 AM) เลยครับ แต่ถ้าวันไหนคนน้อย ก็อาจจะได้เลิกเร็วกว่านั้นนิดหน่อย เราแทบจะ “ใช้ชีวิตกับ tip” เลยครับ 😆 ไม่ว่าจะค่าหอ ค่ากิน หรือช้อปปิ้ง เราจ่ายด้วยเงิน tip เป็นหลักเลย และด้วยความที่เราได้ทำแค่กะเย็น ก็จะทำงานกับเพื่อนอีก 2 คนตอลดเลยครับรวมเราเป็น 3 คน ทุกคนในร้านจะคอย สอน – ช่วย – แบ่งงานกัน อย่างดีมาก ทำให้เราทำงานได้แบบสบายใจ สนุกสุด ๆ ทุกครั้งที่ได้มาครับ เป็นอีกงานที่เราแฮปปี้มากครับ 💕 !! และเราก็สามารถกินทุกอย่างในร้านได้หมดเลยครับ แถมเมเนใจดีสามารถเอากลับบ้านได้ด้วยครับ (ห้ามเยอะนะครับ52525)!!
📍Smoky Mountain Candy Makers
💵 $15/hr
ร้านที่เราชอบเรียกกันว่า “ร้านคุณป้า” 👵🍬 เพราะเจ้าของร้านเป็นคุณป้าชาวอเมริกันที่น่ารัก ใจดีสุด ๆ 💗 ร้านนี้เราเลือกทำเฉพาะวันหยุด (Day-Off) จาก Dollywood เท่านั้น และจะทำในช่วงเช้า เพราะร้านปิดค่อนข้างเร็วครับบางวันแค่ 6 โมงเย็นก็ปิดแล้วครับหน้าที่ของเราคือเป็น Cashier บนชั้น 2 ของร้าน โดยร้านนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ชั้น:
ชั้นล่าง เป็น Sweet Shop ขายของหวาน ขนม ลูกกวาด
ชั้นบน เป็น Souvenir Store ขายของฝาก ของที่ระลึก
สิ่งที่เราชอบมากคือคุณป้าเจ้าของร้าน ไม่เคยกดดัน เลยครับ บางทีถ้าเรามาทำงาน คุณป้าก็กลับบ้านเลย ปล่อยให้เราดูร้านแบบ 100% ไปเลย 555 งานไม่ได้หนักมากครับ แต่ก็แอบเหงานิดหน่อย เพราะเป็นร้าน Local ที่ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ แต่ถ้าวันไหนลูกค้าเยอะ เราจะดีใจมาก เพราะจะได้พูดคุย ได้ใช้ภาษา โดยรวมแล้ว ร้านคุณป้าอาจจะเงียบ ๆ แต่ อบอุ่นและสบายใจ ที่ได้ทำงานที่นี่ครับ อีกอย่างคือ เราได้ฝึกความรับผิดชอบเยอะ เพราะต้องดูแลร้านเองเลยทั้งวัน
ที่พักของเราชื่อว่า IRH (International Residence Hall) 🛏️ เป็นที่พักที่ฝั่งอเมริกา (US Sponsor) จัดเตรียมไว้ให้สำหรับคนที่ทำงานกับ Dollywood เท่านั้น 🏢 1 ห้องจะพัก 4 คน เป็นเตียงสองชั้น 🛏️🛏️
ของในห้องก็มีให้ครบเลย: ตู้เย็น ❄️ ไมโครเวฟ 🍲 แอร์ 💨 โต๊ะ 🪑 ฯลฯ 🚐 Shuttle Bus มารับส่งถึงหน้าหอเลย! ใช้เวลาแค่ 5 นาทีจากหอไป Dollywood เองครับ 🎯
Pigeon Forge ถือว่าเป็นเมืองที่สงบมากเลยนะครับ ฟีลเหมือนเขาใหญ่บ้านเราเลยครับ🌳🌲🍃ธรรมชาติสุด ๆ อากาศก็ดีมาก ผู้คนน่ารัก แทบจะไม่มีการบูลลี่หรือคนไร้บ้าน (homeless) เลยครับ ช่วงที่เราไปแรก ๆ อากาศหนาวมาก ประมาณ 0°C–1°C เลยครับ❄️หนาวจนมือชาเลย เมืองก็น่ารัก มีอะไรให้ทำอยู่บ้าง อาจจะไม่เยอะมาก แต่ก็พอให้ไม่เบื่อครับ การเดินทางก็ถือว่าไม่แย่ มีรถ Trolley ให้บริการรับส่งทั่วเมือง แต่อาจจะต้องรอนานหน่อย เราซื้อเป็น Season Pass ราคา $35 นั่งได้ไม่อั้นทุกสาย คุ้มมาก หรือถ้าไม่อยากซื้อแบบเหมาจ่าย ก็จ่ายครั้งละ $1 ได้ครับ
Pigeon Forge เป็นเมืองที่เราชอบมาก 🌟 เพิ่มเติมอีกนิดจากใจเรา 💙 เราเจอ สิ่งดี ๆ เยอะมากที่นี่เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่น่ารัก คนที่ร้านงานที่สองและสาม รวมถึงเพื่อน ๆ J1 ด้วยกันทุกคน พูดได้เลยว่า… ตลอด 4 เดือนที่อยู่ที่นี่ เรามีความสุขกับการใช้ชีวิตมากจริง ๆ ครับ 🥹 เราเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่เดินทางมาช่วง Spring และก็เป็นกลุ่มสุดท้ายที่กลับเลย เรียกได้ว่าเรา อยู่ครบ Full Quota และได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทุกอย่างแบบเต็มที่มาก 💯
เราได้เจอพี่คนไทยที่ทำงานอยู่ Dollywood ด้วยครับ พี่เขาอยู่ที่นี่ถาวร แล้วน่ารักกับเรามาก ลูก ๆ ของพี่เขาก็ชอบมาเที่ยว Dollywood ทุกครั้งที่มา พี่เขาจะ ทำอาหารไทยมาให้ เราเสมอเลยครับ 🍛🍲 แถมทำเยอะมาก จนเราสามารถแบ่งให้เพื่อน ๆ คนอื่นในหอได้กินด้วยกัน พี่เขายังชวนเราไปกินหมูกระทะ ส้มตำที่บ้านอีกด้วย 🥩🌶️ คือหลังจากไม่ได้กินอาหารไทยมานาน พอได้กินแล้วน้ำตาแทบไหลเลยครับ ขอบคุณจากใจจริง ๆ ครับ 🙏💖
พี่เจ้นก็มาหาและเลี้ยง Pizza พวกเราถึง 2 รอบเลยครับ พร้อมเครื่องและอุปกรณ์ในการทำส้มตำมาด้วยครับ55555 🩵🧡
เองก็มีสวัสดิการดีมากเหมือนกัน ในฐานะพนักงาน เราสามารถเข้าใช้บริการหลายที่ได้ฟรี! พวกสวนสนุกต่าง ๆ หรือสถานที่ท่องเที่ยวในเมือง พอเรา Day-off พร้อมกับเพื่อน เราก็จะใช้เวลานั้น ออกไปหากิจกรรมสนุก ๆ ทำด้วยกัน โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าซักบาท! คือมันดีมากกกกก 🎉 เรามี “ไฟล์ลับ” เลยนะครับ ว่าที่ไหนเข้าฟรีบ้าง (เยอะมาก!)
เรามีความทรงจำกับเพื่อน ๆ แทบจะทุกเครื่องเลยบางครั้งมีเวลาพักแค่ 15 นาที เราก็วิ่งไปเล่นเครื่องเล่น แก้เบื่อบ้าง เจอเพื่อนบ้าง (แต่จริง ๆ ทำไม่ได้ เพราะยังใส่ยูนิฟอร์มอยู่ 555) คือเรารู้สึกว่า เราพยายามใช้ทุกนาทีให้คุ้มที่สุดเท่าที่จะทำได้และมันทำให้เราผูกพันกับที่นี่มาก ๆ พอต้องจากไปก็ใจหายจริง ๆ ครับ 😢
เราขอแนะนำ Dollywood เป็นหนึ่งในตัวเลือกเลยครับ! เหมาะกับคนที่อยากได้ “ประสบการณ์จริง ๆ” มากกว่าเน้นเก็บเงินอย่างเดียว ถ้าคุณตั้งใจใช้ชีวิตให้คุ้ม → คืนทุนแน่นอนครับ (ยกเว้นถ้าช้อปหนักมากแบบเรา 5252525 😆) หวังว่ารีวิวของเราจะเป็นประโยชน์นะครับ ตอนเราหาข้อมูล เราก็ได้รีวิวจากในกลุ่มนี้แหละช่วยเยอะมาก ขอบคุณทุกคนอีกครั้งครับ 💙
ใครสงสัยอะไร หรืออยากถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Work and Travel, Dollywood, เมือง Pigeon Forge หรืออะไรก็ตาม DM มาได้เลยนะครับ เดี๋ยวเราหาเวลาว่างมาตอบให้แน่นอนครับ 🙌
Have a good day, and good luck with your journey! 🌎✨
#WorkAndTravelUSA2025 #Dollywood #แชร์ประสบการณ์WAT #ชีวิตในต่างแดน #PigeonForge
Credit Facebook Perapat Noikam
Copyright 2024 © by New Step Exchange Program. All rights reserved.